เป้าหมายหลัก (Understanding Goal)

Week7



วันจันทร์ ที่ 26 เดือน มิถุนายน พ.ศ 2560



สิ่งที่ได้เรียนรู้
       
       "วันจันทร์มาถึง ใยคะนึงหา นับช่วงเวลา เบิกบานใจเอ่ย"
        เริ่มต้นเช้าที่มีความหมายด้วยกิจกรรมจิตศึกษาจากครูกุ้ง

ชื่อ "ลองลิ้น ชิมรส" 

ขั้นเตรียม (5 นาที)

-          ครูและนักเรียนนั่งเป็นวงกลม แล้วไหว้ทักทายกัน
ด้วยความนอบน้อม
-          Brain Gym (จีบ – แอล, กรรไกร – ก่อหญ้า)
-          ครูให้นักเรียนปิดเปลือกตาลงช้าๆ อย่างมีสติ หายใจ
เข้ายาวๆ และหายใจออกช้าๆ 2-3 ครั้ง เพื่อรับรู้สัมผัสที่ปลายจมูกข้างที่ชัดเจน แล้วรับรู้สัมผัสของลมหายใจอย่างต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลา 2 นาที
-          ครูให้นักเรียนลืมตาขึ้นด้วยการขยับเปลือกตา 2 – 3

ครั้งเพื่อปรับแสง 

ขั้นกิจกรรม ( 15 นาที )

-          ครูหยิบผักขึ้นมา (ผักกูด ผักแปะตำปึง ผักเทียน ผักวอเตอร์เกรช ดอกอัญชัน และใบพลู )
-          ครูกระตุ้นความคิดด้วยคำถาม
“พี่ๆเห็นอะไร, มีสีอะไร, คิดว่าผักชนิดนี้มีชื่อว่าอะไร”
-          ครูส่งกระด้งผักให้นักเรียนทั้ง 2 ทาง โดยมีกติกา
คือ “เราจะรับผัก และเลือกหยิบผักมา 1 ชนิด จากนั้นชิมดู และลองนับดูว่าก่อนที่ผักจะหมดได้เคี้ยวกี่ครั้ง เราจะสำรวมตัวเราไว้ ยังไม่บอกใครว่าผักที่เราทานมีรสชาติอย่างไร”
-          ให้ส่งต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างที่รับส่งมีการไหว้
ขอบคุณกันและกันอย่างนอบน้อม
-          เมื่อครบทุกคนแล้ว ครูกระตุ้นคำถามว่า พี่คิดว่า
ผักที่พึ่งกินไปนั้นชื่อว่าอะไร
-          ครูยกผักแต่ละชนิดขึ้นมา ถามนักเรียนว่านี้คือผัก
อะไร มีรสชาติอย่างไร พี่คิดว่าผักนี้มีสรรพคุณอย่างไร เมื่อเราทานไปแล้วจะไปทำงานช่วยส่วนใดในร่างกาย
-          พี่ๆคิดว่าใครเป็นคนดูแลผักที่โรงเรียนของเรา, ถ้า
นักเรียนไม่ทานผักเลยจะเป็นอย่างไร
-          นักเรียนร่วมนำเสนอแลกเปลี่ยนเรื่องราวของ
ตนเอง, ผลงานของตนเอง

ขั้นจบ (5 นาที)

-          ครูพูดเสริมแรงชื่นชม Empower ในความตั้งใจ
ของนักเรียนทุกคน
-          ครูและนักเรียนไหว้ขอบคุณซึ่งกันและกัน



 

       ภาพรวมกิจกรรมถือว่าดี นักเรียนสนใจ ตั้งใจ และชิมผักกันทุกคน บางคนก็กินไปทั้งหมด ได้คำคมจากพี่แสตมป์มาด้วยว่า "ผมเลือกกินมะเขือพวง ถึงขมก็ไม่เป็นไรครับ หวานเป็นลม ขมเป็นยา" ครูกุ้งทำจิตศึกษาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้วแต่ก็ยังเห็นปัญหา และเริ่มมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากตัวครู จากสิ่งแวดล้อม จากตัวนักเรียน สิ่งที่ต้องปรับก่อนสิ่งอื่นคือตัวครูกุ้งเอง จะต้องไว มีไหวพริบให้มาก  ได้รู้ก็เพราะได้ลงมือทำจริง ปัญหาที่เกิดในวันนี้คือ เรายื้อเวลาเกินไปในช่วงขั้นกิจกรรม เพราะว่าเราอยากให้เด็กได้รู้ ได้ตอบ และอยากให้เด็กนิ่ง จึงกินเวลาเกือบจะ 4 - 8 นาที สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ หาวิธีแก้ไขปัญหานั้น ขอบคุณโอกาสที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้ฝึกตัวเอง และได้พัฒนาตัวเอง ครูจะพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อนักเรียนที่น่ารักของครู

       จากนั้นเป้นผู้ปกครองอาสามาสอนนักเรียนร้องเล่นเต้นเพลงภาษาอังกฤษ ถัดมาเป็นวิชาคณิตศาสตร์สอบบวกเลขแบบรูปธรรม ต่อด้วยวิชาภาษาไทย ครูพานักเรียนอ่านหนังสือสระสนุก ทบทวนที่อ่านมาจากบ้าน ตอน ตุ๊กแกตัวที่ 8ตอน แมวน้อยกับยักษ์ตัวโต และแม่มดโจ๊ะ โจ๊ะ โดยแยกอ่าน 2 กลุ่ม กับครูคนละ 1 คนต่อกลุ่มพาอ่าน อ่านเสร็จ ใช้คำถามกระตุ้นความคิดกับนักเรียน แล้วให้เขียนคำศัพท์ที่มีสระ แอ สระโอ และสระ โอะ บนหน้ากระดาษ

 


       หลังจากทานข้าวแปรงฟัน ก็เป็นกิจกรรมจิตศึกษา นำกิจกรรมโดยครูกุ้ง วันนี้ภาพรวมโอเค แต่ก็ยังติดอยู่ในช่วงปลุก เพราะเด็กพึ่งตื่นเด็กไม่ยอมทำตาม และไม่อยากลุก ครูต้องกระตุ้นให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่ให้มากจนเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป อาจนำ 16 ท่ารักงอมแง่มเข้ามาตอนที่นักเรียนนั่งได้
       ส่วนวิชา PBL วันนี้นักเรียนได้ดูวีดีโอภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ได้วาดรูปตามสำนวน ใครเสร็จแล้วส่วนหนึ่งมาฝึกอ่านข้อความภาษาไทยกับครูกุ้ง จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม วันนี้สอนสระ 5 ตัวก่อน ประกอบด้วย สระอา สระอิ สระอี สระอุ สระอู คิดคำศัพท์ที่มีสระนั้น


 








วันอังคาร ที่ 27 เดือน มิถุนยน พ.ศ.2560



สิ่งที่ได้เรียนรู้   
                                                
"หากว่าคุณเคยทำเรื่องมากมาย เพื่อใครบางคน
โดยไม่เคยต้องมีเหตุผล ทำด้วยความเต็มใจไม่เคยท้อ
ถ้าบังเอิญคุณมีน้ำแก้วหนึ่ง แต่มีคนร้องขอ
คุณก็ยอมให้เขาต่อ ทั้งที่คุณต้องการเหมือนกัน"
                                                                                                         cr. คือรักแท้ - ศิลปินเซเว่น
       เริ่มต้นวันที่แสนสดใสด้วยกิจกรรมจิตศึกษา วันนี้แนะนำคุณครูล้าน ครูล้านก็แนะนำตัว เล่าประวัติ เล่าถึงงานที่ทำ สิ่งที่รับผิดชอบ และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ถาม - คุณครูล้านตอบ สุดท้ายก็เป็นการกอดมอบพลังความรักให้แก่คุณครูล้าน

        วิชาภาษาไทย ครูพานักเรียนทบทวนความรู้เดิม ทบทวนสระแอ สระโอ สระโอะ ต่อด้วยเขียนตามคำบอกจากบทเรียน โดยครูพูดคำๆนั้น 3 ครั้ง นักเรียนเขียนด้วยความซื่อสัตย์ ไม่ลอก ไม่แก้ มีทั้งหมด 20 คำ เสร็จแล้วไปตรวจในชั้นเรียน มีการบ้านคือ ให้นักเรียนเลือกคำใดก็ได้ นำมาแต่งประโยค 5 คำ 5 ประโยค ถัดมาเป็นวิชาคณิตศาสตร์และวิชาการคิด ครูสอนบวกเลข และพานับสถิติการแข่งขันเป่าลูกฟุตบอลเข้าประตู เล่น 5 ครั้ง เมื่อชนะครั้งนั้นให้นับเป็น 1 แต้ม

 


          PBL ช่วงบ่ายวันนี้เป็นกิจกรรมผู้ปกครองอาสา มาสอน และพานักเรียนทำขนมปัง ทำข้าวจี่ และทำข้าวธัญพืช นักเรียนตื่นเต้น สนใจ เป็นอย่างมาก ตั้งใจทำกิจกรรมเป็นอย่างมาก พี่ๆมีส่วนช่วยในการนวดแป้งขนมปังและส่งเสียงเชียร์คุณพ่อพี่จินจูทุบแป้ง (ตีแป้ง) ช่วยคุณแม่พี่ไดมอนด์ปั้นข้าวเหนียว พลิกข้าวจี่ มีส่วนช่วยในการส่งกำลังใจให้คุณน้าพี่อิ่มบุญหุงข้าว สุดท้ายก็สำเร็จ พี่ๆได้รับประทานอาหารแสนอร่อย อาหารที่พีๆมีส่วนร่วมในการลงมือทำ 


 


        จากนั้นกิจกรรมประจำวันที่เราต้องทำค่ะ คือไปรดน้ำพี่ข้าวโพด ไปดูความงอกงามที่เราร่วมกันเอาใจใส่จนเติญโต และไปให้น้ำพี่จิ้งหรีดต่อ ตอนนี้พี่เขาเริ่มแตกออกจากไข่แล้ว เป็นตัวเล็กๆจำนวนมาก พี่ๆตื่นเต้น และดีใจที่ได้เห็นพี่จิ้งหรีดของเรา จากที่เคยเจอปัญหา บ้านพี่จิ้งหรีดทรุดโทรม จึงต้องทำหลังคาและเสาใหม่ จากนั้นเจอปัญหาหลังคารั่วทำให้น้ำไหลลงมา  พี่จิ้งหรีดส่วนหนึ่งจมน้ำตาย เพราะโดยฝน จึงต้องมาคลุมหลังคาใหม่อีกครั้ง แต่สุดท้ายความพยายามของเรา ผู้ปกครอง นักเรียน และครู ใกล้ความสำเร็จแล้ว เพราะพี่เขาเริ่มเติญโต และเป็นหน้าที่ของเราที่จะดูแลพี่เขาให้เติมโตาจนเต็มวัย








วันพุธ ที่ 28 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2560
สิ่งที่ได้เรียนรู้

 "ถ้ามีใครคนหนึ่งเขาล้มลง อยู่ที่ตรงริมทาง
คุณเข้าไปประคองคนนั้น ให้เขามีกำลังขึ้นยืนไว้
ถูกใครๆรังแกก็สู้ทน เจ็บก็ยังอภัย
 และไม่เคยนึกเบื่อหน่าย ไม่เคยเสียดายกับการแบ่งปัน"

                                                                                                         cr. คือรักแท้ - ศิลปินเซเว่น

       เริ่มต้นเช้าที่มีความหมายด้วยกิจกรรมจิตศึกษาแนะนำแม่บ้าน คณครู และบุคลากร วันนี้มีคุณลุงมาพูดคุยกับพี่ๆ ป.1  คุณลุงแนะนำชื่อ สกุล อายุ ทำงานมากี่ปีแล้ว ใช้ชีวิตยังไง และตอบคำถามต่างๆ ตามที่พี่ๆ ตั้งคำถาม เช่น วันหนึ่งคุณลุงทำอะไรบ้าง ลุงชอบสิ่งของอะไรที่สุด ลุงชอบทานอะไร ลุงมีครอบครัวกี่คน มีพี่น้องไหม ลุงเป็นลูกคนที่เท่าไหร่ สุดท้ายพี่ๆแต่ละคนก็ได้ไปบอกกล่าวสิ่งที่อยากบอกกับคุณลุง และมอบพลังความรักด้วยการกอด

 

      ต่อด้วยวิชภาษาอังกฤษ เรียนเรื่องหมวดแอนิมอล สัตว์ โดยผ่านการเล่านิทานจากคุณครูแดง นักเรียนให้ความสนใจเป้นอย่างมากเพราะมีฉาก มีตัวละคร จากนั้นก็มาเขียนสรุปในกระดาษ เขียนคำศัพท์ 4 -5 คำ พร้อมวาดรูประบายสีในแบบเปิดปิด


      ถัดมาเป็นวิชาภาษาไทย เรียนเรื่องคำควบกล้ำแท้ โดยครูมีปริศนามาให้นักเรียนเล่น แล้วให้เขียน หรือวาดรูปให้กับปริศนานั้น คำตอบก็จะมี ควาย ขวาน เกวียน กล้อง กลอง เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็นำไปแปะที่กระดาษสำนวนปริศนานั้น จากนั้นก็มาเฉลยพร้อมกันที่กระดาน และพี่ๆก็รวมกันเขียนคำศัพท์เหล่านั้น ทั้งคำเก่า และคำที่คิดขึ้นมาใหม่ ลงในสมุดของตนเอง

 

      หลังจากทานข้าวแปรงฟัน ก็เป็น Body Scan นำกิจกรรมโดยครูกุ้ง วันนี้ได้อ่านวรรณกรรม ลาแสนรู้ ตอนปราบโจร ให้นักเรียนได้ฟัง เมื่อใดที่อ่านวรรณกรรมสังเกตเห็นว่านักเรียนไม่ค่อยนิ่ง จะคุยกัน แต่เราก็ต้องเก็บเด็กให้ได้ นั้นเป็นหน้าที่ของครูแล้ว จะหาวิธีอย่างไรมาเก็บเขา เพราะเราต้องทำแบบผ่อนคลาย 1 วัน วันถัดไปก็อ่านวรรณกรรม สลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ จากนั้นนักเรียนก็ได้เคลียร์งานในห้องเรียน และสุดท้ายก็แยกย้ายเข้าชุมนุมของตัวเอง แต่อย่างไรหน้าที่รดน้ำข้าวโพด และดูแลน้องจิ้งหรีดของเราก็ยังต้องดำเนินการต่อ แต่ทำภารกิจนี้หลังจากเลิกคาบชุมนุม









วันพฤหัสบดี ที่ 29 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2560


สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้
      เริ่มต้นเช้าทีมีความหมายด้วยกิจกรรมจิตศึกษา แนะนำคุณลุง คุณลุงตอบตามคำถามที่ครูแดงถาม และพี่ๆถาม พี่ๆก็ได้รู้้รื่องราวที่ยังไม่รู้ เช่น ลุงทำงานมา 11 ปีแล้ว ลุงชอบทานผัก ลุงตัดต้นไม้ และดูแลฟาร์ม เป็นต้น สุดท้ายก็เป็นการบอกความในใจ ส่งมอบพลังความรักด้วยการกอด
  

       ถัดจากนัดเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ฝึกออกเสียง A-Z และทำท่าทางตาม เสร็จแล้วพี่ๆได้เล่นเกมจับกลุ่มคำศัพท์ภาษาอังกฤษภาพ มีด้วยกัน 2 ชุด วิชาคณิตเรียนบวกเลข ลบเลข


        จากนั้นเป็นวิชาภาษาไทย วันนี้เรียนเรื่องคำควบกล้ำ ครูออกแบบกิจกรรมได้น่าสนใจ คือมีบัตรคำมา แล้วให้นักเรียนจับกลุ่มกัน นักเรียนก็แยกตามกลุ่ม ให้นักเรียนสังเกตจาก ตัว ร ล ว เช่น กลุ่มที่ความกล้ำ ล ก็ไปอยุ่ด้วยกัน ควบกล้ำ ร ก็ไปอยู่ด้วยกัน และควบกล้ำ ว ก็ไปอยู่ด้วยกัน แล้วถามแต่ละกลุ่มว่ามีวิธีการจับกลุ่มอย่างไร ข้อความที่ได้อ่านว่าอะไร และมีสรุปร่วมกันในตอนท้าย สรุปแล้วเขียนลงในสมุด


        หลังจากทานข้าวแปรงฟัน ก็เป็น Body Scan ถัดมาวิชา PBL พี่ๆร่วมกันดูวีดีโอ สุดยอดแม่บ้าน วิธีกำจัดมอด มด มีพี่อ๋อมแอ๋มตอบว่า ที่บ้านคุณยายใช้ถ่านใส่ไปในข้าว เป็นวีถีชาวบ้าน มีหลายคนบอกว่าเอาชอล์กขีด แต่เมื่อครูแนะคำตอบว่าเป็นวิถีธรรมชาติ พี่ๆก็เริ่มตอบว่าทำเป็นแอ่งน้ำแล้วเอาข้าวไว้ตรงกลาง ใส่น้ำโค้ง ฯลฯ จากนั้นครูจึงพาดูวีดีโอ โดยมีวิธี เอาช้อนปักลง ปิดให้สนิทแช่ตู้เย็น ใส่พริก หอมหัวใหญ่ ลูกมะกรูด และใบมะกรูดเป็นต้น จากนั้นก็ร่วมกันสรุปเป็นมายแมพปิ้ง


        วันนี้ช่วงเย็น เป็นวันทำความสะอาดห้องเรียนและอาคาร พี่ๆทุกคนก็ไปทำความสะอาดช่วยกัน เริ่มทำตั้งแต่ ปัด กวาด เช็ด ถู และนำใบตองมาถูอีกครั้ง เสร็จแแล้วมีตัวแทนไปรดน้ำข้าวโพด และดูแลจิ้งหรีด






       
วันศุกร์ ที่ 30 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2560





สิ่งที่ได้เรียนรู้
       เริ่มต้นเช้าที่มีความหมายด้วยกิจกรรมจิตศึกษาจากครูกุ้ง เป็นนิทานเรื่องเล่าเล่าที่แต่ขึ้นเอง ชื่อนิทาน เทพธิดา เทพบุตร ตกสวรรค์ โดยจะสอดแทรกการสอนนั่งให้นักเรียนไปด้วย



แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พัฒนาปัญญาภายในโดย “จิตศึกษา” ระดับชั้นประถมศึกษา

วัน
กิจกรรม
เป้าหมาย
กระบวนการดำเนินกิจกรรม
สื่อ/อุปกรณ์
ศุกร์
(วรรณกรรม นิทาน เรื่องเล่า ประสบการณ์)
เรื่องเล่า
เทพธิดาตกเกาอี้
ขั้นเตรียม :
รู้ตัว มีสติ
มีสมาธิ จิตจดจ่อ
ขั้นเตรียม (5 นาที)
-          ครูและนักเรียนนั่งเป็นวงกลม แล้วไหว้ทักทายกัน
ด้วยความนอบน้อม
-          Brain Gym (ไม่ไลค์-แอลแนวนอน, นับ1-10 ต่อไปสลับข้าง)
-          ครูให้นักเรียนปิดเปลือกตาลงช้าๆ อย่างมีสติ
หายใจเข้ายาวๆ และหายใจออกช้าๆ 2-3 ครั้ง เพื่อรับรู้สัมผัสที่ปลายจมูกข้างที่ชัดเจน แล้วรับรู้สัมผัสของลมหายใจอย่างต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลา 2 นาที
-          ครูให้นักเรียนลืมตาขึ้นด้วยการขยับเปลือกตา 2 – 3 ครั้งเพื่อปรับแสง

-เพลงสปาผ่อนคลาย
-ดินสอ
-กระดาษ
-ภาพสวรรค์ รูปคนนั่งในแต่ละท่า

ขั้นกิจกรรม :
ฝึกการมีสติรู้ตัว สมาธิจดจ่อ ฝึกความรับผิดชอบต่อตนเอง และสิ่งอื่น
ขั้นกิจกรรม ( 15 นาที )
-          ครูกระตุ้นความคิดด้วยคำถาม “พี่เห็นอะไร, มีสีอะไร, มีลักษณะอย่างไร, พี่ๆคิดว่าครูจะนำมาทำอะไร” จากภาพแล้ว“พี่ๆคิดว่าครูจะเล่านิทานเรื่องอะไร”
-          ครูเล่าเรื่อง เทพธิดาตกเก้าอี้ ให้นักเรียนฟัง ครูกระตุ้นความคิดด้วยคำถาม “มีตัวละครอะไรบ้าง ได้ข้อคิดอะไร”
-          ครูกระตุ้นความสนใจ“ขอให้พี่ๆคิดชื่อนิทานเรื่องนี้ และหากเปลี่ยนแปลงนิทานเรื่องนี้ได้พี่จะเปลี่ยนช่วงไหน”
-          ครูส่งตะกร้าอุปกรณ์ให้นักเรียน นักเรียนหยิบคนละหนึ่งชุด (กระดาษ ,ดินสอ) มีการไหว้ขอบคุณกันและกันอย่างนอบน้อม ใครที่ได้กระดาษปากกาแล้วให้ลงมือทำทันที สามารถเขียนข้อความ หรือวาดรูปสื่อออกมาก็ได้
-          นักเรียนร่วมนำเสนอแลกเปลี่ยนเรื่องราวของตนเอง, ผลงานของตนเอง


ขั้นจบ
มีมารยาท เคารพคุณค่าของตนเองและผู้อื่น
ขั้นจบ (5 นาที)
-          ครูพูดเสริมแรงชื่นชม Empower ในความตั้งใจ
ของนักเรียนทุกคน ขอบคุณเรื่องราวที่มีความหมายดีๆ
-          ครูและนักเรียนไหว้ขอบคุณซึ่งกันและกัน

 


เรื่อง เทพบุตร เทพธิดาตกเก้าอีก
ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีเทพธิดา เทพบุตรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีพระอินทร์ เป็นผู้ปกครอง เทพบุตรเทพธิดาที่อาศัยอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้นั้น จะมีอาหารทิพย์ คิดสิ่งใดก็จะปิ้งๆ ปรากฏมาในท้องของเทพธิดา เทพบุตร ให้อิ่มไม่มีความหิว มีวิมารทิพย์ มีที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย ที่เครื่องอำนวยความสะดวก คนที่จะได้มาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้ เมื่อครั้นเขาเป็นมนุษย์อยู่ เขาได้ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม ทำบุญทำทานเป็นประจำ เป็นคนมีศีลมีธรรม สวดมนต์ เจริญภาวนา เป็นคนที่รู้เวลา เห็นอกเห็นใจผู้อื่น แบ่งปัน และเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา เขามอบความรักความเอาใจในทุกสรรพสิ่ง แม้แต่กระทั้งมดตัวเล็กๆก็ไม่ฆ่า หรือแม้แต่ช้างตัวใหญ่ๆ เขาก็มอบอาหารให้ อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือผู้คนในยามที่มีคนทุกข์ยาก ดูแลพ่อแม่ งานที่ทำเขาทำก็เป็นงานสุจริต ไม่เบียนเบียนใคร เขาจะเป็นคนที่น่ารัก คนที่ดูแลตัวเองและสรรพสิ่งรอบข้างได้ คนที่ประพฤติตนเช่นนี้เมื่อเขาสิ้นใจก็จะได้มาจุติอยู่บนสรวนสวรรค์
แต่อย่างใดก็ตามหากเทพบุตรเทพธิดาที่อยู่บนสวรรค์เกียจคร้านในการทำความสะอาดวิมารทิพย์ ทำตัวไม่น่ารัก ไม่รู้จักเวลา ไม่รดน้ำต้นบุญรอบๆวิมาร หรือให้อาหารสรรพชีวิตที่ตนรับผิดชอบเลย ร่างกายเทพบุตรเทพธิดาก็จะเริ่มหม่นหมองลงเรื่อยๆ นั้นหมายถึงเขากำลังใกล้จะหมดบุตรแล้ว เขาจะได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ที่ขี้เกียจ ไม่รู้จักเวลา หรือเป็นลิง แต่ถ้าเทพบุตรเทพธิดาตนใดที่ไม่ทำอะไรแล้ว แถมยังไปทำร้าย ก่อกวนผู้อื่นอีก สร้างปัญหา ชวนทะเลาะ ตบตีผู้คน ขโมยของ เทพธิดา เทพบุตร ก็จะตกสวรรค์กลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน
วันหนึ่งพระอินทร์ก็ไปเจอเทพบุตร กับ เทพธิดา ที่กำลังใกล้จะหมดบุตร ด้วยความที่พระอินทร์สงสารเขาเหล่านี้ จึงคิดหาวิธีที่จะช่วยเทพบุตร เทพธิดา พระอิทร์วางแผนอยู่นาน จนสุดท้ายคิดได้ว่า “เรามีบังลังวิเศษให้เขาเหล่านั้น ทั้ง 5 คน”นี้  วิธีการก็คือให้เทพบุตรเทพธิดาไปนั่งลงบนบังลงค์นั้น
ด้วยความตื่นเต้น เทพบุตรคนที่ 1 วิ่งไป แล้วไปนั่งยักย่อ เขาทำผิดต่อพี่บังลงค์ จึงต้องตกสวรรค์ไป
เทพคนที่ 2 อาจหาญชาญชัย แต่ถว่าเขาอยากได้สิ่งนั้นมากเกินไปจึงทำให้เขานั้นไม่นั่งลงสักที ยังคงยืนอยู่ ไม่ยอมนั่ง ตูดไม่ถึงพื้น เขาจึงตกสวรรค์ลงมา
เทพธิดาคนที่ 3 ด้วยความดีใจที่ตัวเองจะได้อยู่บริเวณวิหารทิพย์ของเขาต่อ   เขาส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นเป็นอย่างมาก เมื่อเขาได้โอกาสให้เไปนั่งบนบังลังค์ เขาก็เผลอแบะขาออก  2 ข้าง ,มือเท้าคาง ทำตัวไม่น่ารักเลย
เทธิดาคนที่ 4 เขาพยายามตั้งสติ เข้าเดินไปเงียบๆแล้วนิ่ง เทพธิดาจึงนั่ง ท่าพับเพียง ท่าขัดสมาธิให้ดู พระอินทร์เริ่มเห็นสัญญานความพร้อมแล้ว แต่ไปติดตอนสุดท้าย เพราะเทพธิดาที่ 4 เมื่อเรียบร้อยแล้ว พระอินทร์กำลังจะทำเรื่องให้เขาอยู่สวรรค์ต่อ แต่เขาที่ 4 ก็หลุดขำออกมาแรงมาก เขาหัวเราะสมน้ำหน้าคนที่ไม่ได้อยู่ต่อ พระอินทร์เห็นพฤติกรรมเช่นนั้นจึงให้เทพธิดาตกสวรรค์ลงไปเกิด

เทพธิดาดา 5 สำรวมกายและใจ ส่งสัญญานความน่ารัก เขาจึงไปนั่งบนบังลังค์ ด้วยท่าเทพธิดา ท่าพับเพียง ท่าขัดสมาธิ เมื่อปล่อยไปนานแล้ก้ยังควนิ่งอยู่ จึงได้ใหพี่เทพธิดาคนที่ 5 ได้อยู่บนสวรรค์ก่อน                                                                                                            คติ : นั่งดีเป็นศรีแก่ตัว 


หลังจากกิจกรรม ภาพร่วมก็ดี นักเรียนสนใจดี ชอบนิทาน อยากให้เล่าต่อ มีนักเรียนเข้าใจสิ่งทีี่เราต้องการสื่อ ในเรื่องของการนั่ง แต่ไปช้าตรงเก็บเด็ก ตอนส่งกระดาษ ตอนวาดรูป จึงทำให้เกินเวลาไปอีก 5 นาที เฮ้อ 

วิชาต่อมาเป็นวิชาภาษาไทย ครูให้พี่ๆเลือกตอนใดก็ได้ในนิทานสระสนุก ไม่ซ้ำกัน ทำการซ้อม และแสดงละคร นักเรียตั้งใจซ้อม วางแผน วางบทบาทได้ดี แต่ตอนแสดงยังคงมีเขิน มีอาย และพูดเสียงเบา แต่หลายๆคนก็ตั้งใจ ดูแลตัวเอง และดูแลเพื่อนๆ ทำความเข้าใจร่วมกัน จึงทำให้ภาพรวมออกมาได้น่ารักทีเดียว
 

       ในช่วง Body Scan ในวันนี้ นักเรียนนิ่ง และตั้งใจฟังนิทาน ลาแสนรู้ ตอน ปราบโจร นักเรียนผ่อนคลาย บ้างคนไม่นอนก็จะอยุ่กับตัวเองไม่ค่อยดิ้นเยอะ จดจ่อในการฟังนิทาน แต่มาติดปัญหาในช่วงสุดท้ายตลอดเลย หลังจากขั้นปลุก ที่นักเรียนต้องตื่นมาแล้ว แล้วพานักเรียน Brain Gym ร้อง เต้น ปัญหาคือนักเรียนสลึมสลือ แล้วไม่ทำตาม บ้างคนก็ไม่ยอมลุก บ้างคน ตื่นแล้วก็ก้มลงไปอีก เพื่อนปลุกก็ไม่ยอมลุก ครูจึงต้องเดินไปสะกิดและปลุกเอง จึงทำให้การดำเนินกิจกรรมต่อล่าช้าไป คนที่อยากทำกิจกรรมต่อก็เริ่มเบื่อ จะแก้อย่างไรดีค่ะ คิด คิด คิด ^^





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น